ไอดอลฝั่งญี่ปุ่น มีดีอะไร ทำไมถึงเลือกตาม

ต้องบอกก่อนเลยว่าตอนนี้ประเทศไทยเรากระแสไอดอลกำลังมาแรง มีวงไอดอลในไทยผุดเกิดขึ้นมาใหม่มากมายหลายวง โดยแต่ละวงก็จะมีสไตล์แนวเพลงที่แตกต่างกันออกไป โดยถ้าเทียบกับของประเทศญี่ปุ่นแล้วของบ้านเราดูจิ๊บจ๊อยไปเลย ญี่ปุ่นนั้นมีวงไอดอลอยู่เยอะมาก จนบางทีตัวผมเองก็รู้สึกเลือกตามไม่ถูกเหมือนกัน เพราะ ไอดอลฝั่งญี่ปุ่น มันเยอะมากจริงๆ

โดย ไอดอลฝั่งญี่ปุ่น มีอยู่ 2 แบบ คือ
1. ไอดอลที่เป็นแบบทางการ คือมีการเซ็นสัญญากับทางค่ายเราจะเรียกว่า เมเจอร์เดบิวท์
2. ไอดอลแบบที่ไม่เป็นการ ที่ผมรู้มาคือจะไม่มีการเซ็นสัญญา บางค่ายอาจมีการเซ็นสัญญาแล้วแต่ต้นทุนของค่ายด้วย เราเรียกว่าไอดอลใต้ดินหรือจิกะไอดอล

ทีนี้ผมจะมาพูดถึงสิ่งที่ทำให้ผมเริ่มสนใจวงไอดอลกันบ้าง เริ่มแรกก่อนจะตามไอดอลฝั่งญี่ปุ่นอย่างจริงจัง ปกติงานอดิเรกผมจะเป็นคนที่อยู่ติดกับหน้าจอคอมพิวเตอร์ เวลาว่างผมจะชอบอ่านการ์ตูน มังงะ ดูอนิเมะ เรียกได้ว่าเป็นเหมือนพวกโอตาคุเลยก็ว่าได้ ที่จะออกแนวโลกส่วนตัวสูง เนิร์ดๆ ใส่แว่น ชอบเล่นเกม ติดการ์ตูน เอ่อ แล้วก็ที่จริงตอนสมัยประถมผมเป็นคนที่ติดเกมออนไลน์มากคือนั่งเล่นทั้งวันทั้งคืนเลย ผมจึงอยากแชร์ไม่รู้ว่ามีใครรู้จักกันบ้างไหม อันนี้คือเกมสมัยก่อนที่ผมชอบเล่น มีเกม Pangya, Maple Story, Yulgang แต่ว่าตอนนี้พอโตมาคือไม่ได้เล่นแล้ว ถ้าตอนนี้จะให้กลับไปเล่นเกมพวกนี้อีกก็คงรู้สึกเฉยๆ แล้วแหละ

หลังจากนั้นมาก็ได้เห็นข่าวจาก Facebook ว่ามีวง BNK48 ที่เป็นวงน้องสาวของ AKB48 ที่ญี่ปุ่นมาเปิดที่ไทย ซึ่งมีคนให้ความสนใจเยอะมาก ด้วยความที่เราอยากรู้ว่าระบบไอดอลเนี่ยมันเป็นอย่างไรก็เลยเริ่มลองศึกษาติดตามเกี่ยวกับวงดู โดยการลองไปร่วมงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการไปดู Digital Live Studio , เข้าร่วม Event Handshake , ชมคอนเสิร์ต ซึมซับไปทีละอย่างไปเรื่อยๆ จนตัวเองรู้สึกหมด Passion ในการตาม อาจเป็นเพราะว่าดนตรีเพลงกับท่าเต้นนั้นคือรู้อยู่แล้วว่ามาจากทางวงพี่ AKB48 ที่ญี่ปุ่น ที่มีออกมาแล้วหลายซิงเกิล ตรงส่วนนี้เองอาจจะทำให้ผมรู้สึกไม่ตื่นเต้นหรือลุ้นเวลามีซิงเกิลใหม่ออกมา จนมาเปิด Youtube แล้วเจอรายการ Lipta Oke ตอน แสตมป์ อภิวัชร์ กับความลับครั้งใหม่ เสี่ยงไม่เสี่ยงก็คงต้องลุ้นกันไป!

ในคลิปช่วงนาทีที่ 9.41 พี่แสตมป์เขาได้พูดถึงวงไอดอลจากญี่ปุ่นที่เขากำลังติดตามอยู่ จึงทำให้ผมได้มีโอกาสทำความรู้จักกับวง Keyakizaka46 ตอนได้ดูมิวสิควิดีโอ MV นี้ครั้งแรกคือร้องว้าวเลย วงอะไรเนี่ยโครตเท่เลย เนื้อเพลงก็ออกแนวดาร์กๆ ท่าเต้นก็ดูแข็งแรงดุดันดี คือให้ความรู้สึกไม่เหมือนวงไอดอลเลย ที่ส่วนมากจะเน้นออกแนวไปทางน่ารักใสๆ ซึ่งวงนี้แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง แล้วก็ยังมีอีกวงที่จะไม่พูดถึงเลยก็ไม่ได้เป็นวงพี่สาวของ Keyaki นั้นคือวง Nogizaka46 ที่จะออกแนวไปทางสไตล์ลุคคุณหนู นั้นคือสิ่งที่ทำให้ผมหันกลับมาสนใจติดตามวงไอดอลอีกครั้งเพราะความแปลกใหม่กับ Concept ที่ไม่เหมือนวงอื่น

อันนี้คือเพลงของวง Keyakizaka46 ที่ผมฟังแล้วชอบเลยอยากแนะนำบอกต่อ อย่างเพลงแรก

Silent Majority

จะบอกถึงคนที่ชอบตอบเออออ เห็นด้วยกลมกลืนไปกับเสียงข้างมาก ทั้งๆ ที่ความจริงแล้วในใจลึกๆ เขาก็อยากที่จะแสดงจุดยืนของตัวเอง แต่แค่ไม่อยากพูดออกมาเพราะไม่อยากที่จะทำตัวแตกต่างหรือมีปัญหา ทำได้แค่เก็บเงียบไว้อยู่ในใจลึกๆ เพลงเลยเหมือนจะปลุกใจเราว่า เธอนะมีอิสระที่จะใช้ชีวิต ควรที่จะตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง

Fukyouwaon

เพลงนี้ไม่พูดถึงไม่ได้ ตรงท่อน Boku wa Yada! ความหมายของมันคือ ฉันไม่เอาด้วยหรอก! เป็นท่อนที่ได้ยินแล้วคือต้องขนลุกเลย เพราะมันทรงพลังมาก เนื้อหาของเพลงความหมายนัยๆ ของมันคือเราควรยึดมั่นในคำพูดของตัวเอง อะไรที่เราคิดว่าฟังดูแล้วไม่สมเหตุสมผล เราควรที่จะเปล่งเสียงพูดปฏิเสธออกไปสิ

Ambivalent

ถ้าใครดู MV นี้อาจจะรู้สึกไม่ชอบเพราะว่าดูแล้วรู้สึกเวียนหัวกับมุมกล้อง บางคนก็อาจจะรู้สึกขัดใจกับชุดที่ใส่เพราะมันดูเหมือนจะไปปฏิบัติธรรมอย่างไรอย่างนั้น ฮ่าๆ โดยเนื้อเพลงจะพูดถึงอารมณ์แบบว่าต้องการอยู่คนเดียว ไม่อยากวุ่นวายกับคนอื่น แต่ว่าบางทีการจะให้เราอยู่คนเดียวไปตลอดก็คงไม่ได้ ก็เลยเกิดเป็นความสับสนตามชื่อเพลง

Kuroi Hitsuji

ยอมรับเลยว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ผมชอบมากที่สุด ด้วยการถ่ายทำ MV แบบ Long Take แล้วก็การแสดงของเมมเบอร์ ที่ถ่ายทอดสื่ออารมณ์ออกมาได้เป็นอย่างดี ยิ่งตรงช่วงที่ถ่ายทำบนดาดฟ้านี่ผมชอบมาก ผมแนะนำเลยว่า MV ควรค่าแก่การดูมากจริงๆ

โดยเพลงทั้งหมดนี้มีคนได้ทำแปล SubThai ไว้แล้วลองไป Search หาดูกันเองนะครับ

เสน่ห์อีกอย่างหนึ่งที่ขาดไม่ได้ของการตามไอดอล ?

นอกจากจะเสพผลงานเพลงแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้เลยในการตามไอดอลนั้นคือ รายการวาไรตี้
อย่างวง Keyakizaka46 เองที่ผมตามอยู่ก็จะมีรายการหลักที่ฉายอยู่เป็นประจำทุกคืนวันอาทิตย์ทางช่องทีวีของญี่ปุ่น ชื่อว่ารายการ Keyakitte, Kakenai? เป็นรายการที่จะทำให้เราได้เห็นตัวตน แล้วก็มุมอื่นๆ ของเมมเบอร์มากขึ้น
อย่าง Ep.89 เรื่องย่อก็คือเป็นการเซอร์ไพรส์ตรวจกระเป๋าของเมมเบอร์

โดยสิ่งของที่อยู่ในกระเป๋าของแต่ละคนนี่คือเรียกว่าเปิดออกมาเจอนี่ถึงกับคาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว เปิดค้นออกมาเจอ ปลาหมึกแห้ง

โดยในแต่ละ Ep. ก็จะแตกต่างกันออกไป ผมนี่ขอชื่นชมคนที่คิด Content ให้รายการเลยเพราะทำออกมาแล้วคือดูไม่น่าเบื่อเลย คือแบบคิดได้ไง

อยากจะติดตามวงนี้ควรเริ่มต้นอย่างไรดี

ซึ่งถ้าคุณเริ่มรู้สึกสนใจอยากที่จะติดตามเกี่ยวกับวงนี้แล้ว แนะนำให้เริ่มต้นจากการดูรายการวาไรตี้ของวงก่อนเพราะจะทำให้เราได้เริ่มเห็น Story เรื่องราวของเมมเบอร์ตั้งแต่ต้นเลย พอเราดูไปเรื่อยๆแล้วเราก็เริ่มรู้สึกอินผูกพันไปกับวง อ่าว แล้วอย่างงี้เราจะไปเริ่มหาดูได้จากทางไหนหละ ไหนจะเรื่องภาษาอีกจะดูรู้เรื่องหรอ ไม่ต้องกังวลไป นี่เลยผมแนะนำให้คุณเข้ากลุ่ม Keyakizaka46 & Hinatazaka46 Thai Fan ค้นหา Search เอาบน Facebook ซึ่งในกลุ่มมีคนที่ได้ทำการแปล Subthai แล้วก็รวบรวมแต่ละตอนไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

สิ่งที่ได้รับจากการตามไอดอล

โดยผมคิดว่าการตามฝั่งญี่ปุ่นนั้นมันมีข้อดีอยู่นะนั้นก็คือทำให้เรามีแรงจูงใจที่อยากจะเรียนภาษาญี่ปุ่นเพื่อที่เราจะได้ต้องรอคนมาแปลไทย มีข้อดีแล้วก็ต้องมีผลเสียด้วย อ่าว ตามไอดอลมีผลเสียด้วยหรอ เสียตังไงล่ะ ก็ดูของที่ Official ทำออกมาสิ

แล้วนี่ก็คือทั้งหมดที่ผมมีความรู้สึกชอบและหลงใหลในการตามฝั่งไอดอลของญี่ปุ่นมากกว่า

ฝากติดตาม blog อื่นๆใน Happioteam ด้วยครับ
blog.happioteam.com