Type Of Mobile Website
ปฎิเสธไม่ได้เลยว่า mobile website ตอนนี้ กลายเป็นส่วนนึงในชีวิตจำวันของเราเลยล่ะ ซึ่งเราในฐานะที่เป็น ดีไซนเนอร์ เราจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องออกแบบเวบไซต์ออกมาให้ user ใช้งานง่ายไม่สะดุด ก่อนอื่นเลยเรามารู้จักประเภทของ Mobile Website กันก่อนเลย
ตัวเราเองจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท
1.SEPARATE MOBILE SITE
โดย M. เนี่ย ยังใช้กันอยู่แพร่หลายในปัจจุบัน ที่เห็นๆได้ชัดเลย ก็ Facebook ที่มีการออกแบบ แยก Mobile และ desktop ที่มีดีไซน์และฟังก์ชั่นการใช้งานที่แตกต่างกัน แต่เราถือว่าเป็นเวบเดียวกันนะจ้ะ
ข้อดี
1.ลูกค้า หรือ ยุสเซอร์จะได้รับปรัสบการใหม่ๆ จากการใช้งาน แล้วก็อิสระในการออกแบบ เพราะมันออกแบบแยกกันระหว่าง Mobile กับ Desktop ไปเลย
2.เปลี่ยนแปลงง่าย ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง Design หรือ Content ก็สามารถเปลี่ยนได้เลย โดยไม่ไปมีผลกระทบกับ Devices อื่นๆ
ข้อเสีย
1.มันมีหลาย Urls เพราะมีการแชร์กันดังนั้นอาจจะทำให้โหลดนานขึ้น
2.เนื้อหา คือต้องมีการทำงานที่ซับซ้อนมากขึ้น เช่น การเปลี่ยนเนื้อหาข้อมูลในนั้น อาจจะทำต้องทำถึง 2 รอบ
ถ้าหากคุณเจอลูค้าที่อยากให้เว็บดูดีบนมือถือ และไม่อยาก Re-Design เว็บหลัก มี Interaction ต้องการให้เว็บออกมาแตกต่าง ก็สามารถเลือกการออกแบบ เว็บไซต์ แบบ SEPARATE MOBILE SITE ให้ลูกค้าได้เล้ยยย
2.ADAPTIVE
ประเภทนี้เป็นรูปแบบของการปรับเปลี่ยนหน้าตาตามขนาดของหน้าจอที่แสดง การปรับขนาดหน้าต่างจะเป็นองค์ประกอบภาพใหม่ ‘สแต็ค‘ ขึ้นอยู่กับความกว้างของจอแสดงผล มีการจัดเรียงรหัสเว็บไซต์เพื่อให้จัดระเบียบส่วนเนื้อหาใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับขนาดการแสดงผล
ข้อดี
1.ลูกค้า หรือ ยุสเซอร์จะเข้าใจ และใช้งานได้ในลักษณะที่เหมือนกันระหว่าง Desktop และ Mobile
2.ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลง และเปลี่ยนแปลงข้อมูลเพียงแค่ครั้งเดียว
3.โหลดไว
4.URLs มีอันเดียว
ข้อเสีย
1.ถ้าไม่มี CMS มาช่วยก็จะทำให้การเปลี่ยนแปลงเนื้อหานั้นค่อนข้างยาก
การออกแบบเว็บไซต์ประเภทนี้เหมาะกับลูกค้าที่อยากได้เว็บไซต์ที่ มี Content อัพเดทบ่อยมาก เป็นเว็บ E-commerce ก็ได้นะ และต้องการหลังบ้านที่มี CMS ใหญ่มาก
3.RESPONSIVE
คือการออกแบบหน้าจอให้ลื่นไหล สามารถปรับขนาดรูปภาพและส่วนเนื้อหาของหน้าได้ตามความกว้างของหน้าจอ / อุปกรณ์ที่ใช้
ข้อดี
1.URLs หนึ่งเดียวสำหรับเนื้อหาทั้งหมด
2.ประสบการณ์การใช้งานที่คล่องตัว การนำเสนอเนื้อหาทั้งหมดได้รับการปรับแต่งและยังสามารถใช้คุณสมบัติเฉพาะของอุปกรณ์ได้
3.ไม่ว่าเราจะวางอุปกรณ์ในรูปแบบ แนวนอน แนวตั้ง ก็ไม่มีผลต่อการใช้งาน
ข้อเสีย
1.ต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบ จึงต้องมีการทดสอบประสิทธิภาพอย่างดีที่สุด ในอุปกรณ์และผู้ใช้แต่ละคน
เลือก Responsive ให้ลูกค้าได้เลย ถ้าลูกค้ายินดี Re-design เว็บใหม่ทั้งหมด, Content อัพเดทบ่อย, มีคน, มีเวลา, และมีคนดูแลเว็บ
ทั้งหมดนี้เราสามารถวางแผนเลือกออกแบบเว็บไซต์ให้ลูกค้าได้เลย เพราะทุกอย่างไม่ได้แปลว่าเราจะต้อง Responsive ไปเสียหมด เพราะลูกค้าของเรามีความต้องการที่แตกต่างกันออกไป และในปัจจุบันเว็บไซต์ต่างประเทศ ได้ปรับปรุงเว็บให้มีการแสดงผลแบบ Responsive Web Design (RWD) เพื่อรองรับการแสดงผลในอุปกรณ์ที่แตกต่างกันมากขึ้นแถมช่วงหลังๆ มานี้หน้าจอของอุปกรณ์ต่างๆ เริ่มมีขนาดหลายรูปแบบแตกต่างกันไป จะให้มาไล่เขียนโค๊ดเพื่อให้เว็บแสดงได้ทุกอุปกรณ์ก็คงจะเป็นอะไรที่ยุ่งยากมาก แนวคิดเรื่อง Responsive Web Design จึงเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้ ไม่เพียงแต่จะแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น Responsive Web Design ยังสามารถรองรับกับความก้าวหน้าในอนาคตที่จะเกิดขึ้นอีกด้วย เพราะเป็นการออกแบบเว็บให้มีความยืดหยุ่น ไม่ยืดติดกับขนาดของหน้าจอ และสามารถปรับแต่งรูปแบบเองได้ตามอุปกรณ์ที่เปิด คราวนี้ ไม่ว่าคอมพิวเตอร์ของคุณหน้าจอจะขนาดเท่าไหร่ มือถือ/แทปเล็ต จะรุ่นไหน การออกแบบเว็บแบบ Responsive Web Design จะทำให้เว็บที่คุณดูนั้น ออกมาสวยงาม ใช้งานง่าย สะดวกกับผู้ใช้งาน และนักพัฒนาเป็นอย่างมาก
ฝากติดตาม blog อื่นๆใน Happioteam ด้วยครับ
blog.happioteam.com