“Tik Tok” โลกใบน้อยๆ ของเด็กรุ่นใหม่
ลูกใครติดแอป Tik Tok ยกมือขึ้น ??
พ่อแม่หลายคนคงปฏิเสธไม่ได้ว่า ลูกคุณเล่นแอปนี้ (โดยเฉพาะเด็กอายุ 6-13 ปี) ชนิดที่ติดมาก ไปไหนมาไหนต้องถ่าย วันดีคืนดี ก็ลุกขึ้นมาเล่นใหญ่พูดคนเดียว, ลิปซิงก์เพลง หรือคำพูดตลกๆ ประหนึ่งหลุดออกมาจากโรงละครรัชดาลัย
มาค่ะ ได้เวลาที่พ่อแม่ยุคใหม่จะได้รู้จัก ได้เปิดประตูเข้าไปในโลกของเด็กๆ ที่บ้านคุณกันแล้ว
Douyin หรือใช้ชื่อว่า Tik Tok กับการทำตลาดในไทยเป็นแอปสัญชาติจีน
ที่สร้างยอดดาวน์โหลดเป็นอันดับหนึ่งของปี 2018 โดยการทำงานของแอปนี้ แสนง่ายดาย User สามารถอัด, ตัดต่อ VDO แทรกเข้าไปกับเสียงที่ตัดมาจากคลิป VDO อื่นๆ หรือที่เรานิยมเรียกกันว่า ลิปซิงก์พร้อมกับเต้นหรือทำท่าทางเลียนแบบ บวกด้วยฟังก์ชั่นลูกเล่น ปรับสี ปรับแสง หน้าใส ใส่สติกเกอร์ หรือแม้แต่ ปรับให้ช้าเร็วยังไงก็ได้ ตามใจผู้เล่น แต่ทั้งหมด Tik Tok มีเวลาให้แค่ 15 วินาทีต่อคลิป เท่านั้น
หากพ่อแม่คนไหน ที่เคยเช็กโทรศัพท์มือถือลูก หรือลองเล่น ติ๊กต๊อกดู จะเข้าใจเลยว่าทำไมลูกๆ ของคุณถึงติดเจ้าแอปที่ว่านี้นัก ด้วยหน้าการแสดงผลที่ง่าย เด็กๆ สามารถเข้าใจได้ ไม่มีอะไรซับซ้อน สนุก และตลกด้วยเสียงต่างๆ จริงๆ เจ้าติ๊กต๊อกเนี่ยถือว่าเป็นช่องทางอีกช่องทางนึง ที่ทำให้เด็กรู้จักกล้าแสดงออก เสริมสร้างจินตนาการ อีกทั้งถ้าเด็กคนไหนที่มีความสร้างสรรค์สูง อาจจะทำคลิป VDO ที่ได้รับความนิยมจนได้ยอดไลค์ถล่มทลาย มีคนคอมเม้นเป็นพันๆ ยิ้มแก้มแตก ไปอวดเพื่อนๆ ที่โรงเรียนได้อีกหลายวัน
ในความสนุกนั้น มันมีบางสิ่งบางอย่างซ่อนอยู่
ด้วยความที่แอปติ๊กต๊อก เปิดเป็นสาธารณะ มีทั้งวัยรุ่น ผู้ใหญ่และเด็กใช้งานเยอะ คำพูด ท่าเต้น เนื้อหาต่างๆ ไม่สามารถควบคุมได้ จริงอยู่ว่าทางแอปได้มีแอดมินคอยแบนและลบคลิปที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสมออก ซึ่งก็จัดการได้แค่บางส่วนเท่านั้น ผู้ใหญ่หรือวัยรุ่นบางคน
เด็กกลุ่มที่ก่อนลงคลิปต้องผ่านการพิจารณาจากผู้ปกครองมาก่อน คลิปจะออกมาในแนวน่ารัก ตลก เหมาะสมตามวัย ไม่มีพิษภัยต่อเด็กคนอื่นๆ ที่จะทำตาม แต่ แต่ แต่ ..จะมีเด็กอีกกลุ่มหนึ่ง ที่พ่อแม่ ปล่อยให้ใช้แอปอย่างอิสระ ไม่เคยเช็กคลิปหรือพฤติกรรมที่ลูกโพสลงสาธารณะไป เด็กกลุ่มนี้มีแนวโน้มที่จะสร้างคลิปจากการเลียนแบบตัวอย่างที่ไม่ค่อยเหมาะสมตามวัย เช่น เต้นท่ายั่วยวนสื่อไปในทางอนาจาร ใช้คำหยาบและท่าทางเกรี้ยวกราด (เกิดการเลียบแบบจากคลิปของผู้ใหญ่) พฤติกรรมต่างๆ เหล่านี้ถ้าเด็กเห็นจนชิน ทำจนชิน พวกเขาจะมองเห็นเป็นเรื่องปกติ ที่ใครๆ ก็ทำ สร้างนิสัยและค่านิยมผิดๆ ให้กับตัวเด็กเอง
คุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกที่โตมาในยุคนี้ ควรจะใส่ใจเรื่องการใช้ Social ของลูก คอยสอน แนะนำ ตักเตือน สร้างภูมิ และเกราะป้องกันให้กับเด็กจนสามารถเติบโตเป็นวัยรุ่นและผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพได้ ส่วนในฝั่งของผู้ใหญ่ที่ใช้ติ๊กต๊อก ก่อนการลงคลิปควรไตร่ตรองถึงความเหมาะสมเพราะสังคมติ๊กต๊อก เป็นศูนย์รวมของคนหลาย Generation การทำอะไรที่สร้างสรรค์พร้อมกับมีความรับผิดชอบต่อสังคมไปพร้อมๆ กัน ก็จะทำให้โลก Visual ที่เราใช้กันอยู่สวยงามมากขึ้น
และฝากติดตาม blog อื่นๆใน Happioteam ด้วยคะ
blog.happioteam.com