ทำไมผมถึงอยากลองนั่งสมาธิ?

“เพราะผมสงสัยว่าการนั่งสมาธิมันดีจริงมั้ย และดียังไง?”

_________________________________________________________

รีวิวนั่งสมาธิ
รีวิวนั่งสมาธิ 66 วัน

_________________________________________________________

สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการนั่งสมาธิวันละ 12-15 นาที เป็นเวลา 66 วัน

  1. ผมได้เรียนรู้ว่าผมสมาธิสั้นมากๆ และต้องฝึกอีกเยอะ
  2. เห็นกิเลสตัวเองชัดขึ้น และรู้ว่าต้องดับด้วยตัวเอง
  3. ทำให้รู้ว่าความสุข ความทุกข์เกิดขึ้นจากภายใน
  4. ทำให้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญในชีวิต และเราควรทำอะไรก่อน
  5. เข้าใจธรรมชาติ และความเชื่อมโยงของธรรมชาติมากขึ้น
  6. ถ้านั่งตอนเช้าช่วงเช้าจะทำงานได้ดีขึ้น
  7. ถ้านั้งก่อนนอน ก็จะหลับดีขึ้น

“ทั้งนี้คุณจะต้องลองเองนะ เพราะการนั่งสมาธิเหมือนการปลูกต้นไม้ที่เราไม่รู้ว่าจะงอกเงยมาเป็นอะไร แต่ละคนเหมือนเป็นเมล็ดที่มีพันธ์ุต่างกัน” ต้องใช้เวลาที่ค่อยๆโต ค่อยๆรับแสงแดด รับน้ำ ดูดซึมแร่ธาติจากดิน บางเมล็ดพอโตแล้วให้ดอกที่สวยงาม บางต้นโตแล้วลำต้นใช้ทำเป็นบ้านได้ บางต้นทานผลได้ เวลาที่ใช้ในการงอกเงยของเมล็ดแต่ละชนิดก็ต่างกันไป

_________________________________________________________

สมาธิคืออะไร? (ที่ผมเข้าใจ)

สำหรับผม คือการที่เรามีสติที่ต่อเนื่อง (สติ=การตื่นรู้, สมาธิ = สติต่อเนื่อง)

_________________________________________________________

ทำไมต้องฝึกสมาธิ?

เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ยังใช้ศักยภาพของตนเองไม่เต็มที่ อย่างผมอาจจะใช้แค่ 0.01% เหลือศักยาภาพอีก 99.99% ที่ยังดึงมาใช้ได้ ถ้าคุณนั่งสมาธิคุณจะเห็นชัดมาก เห็นความไม่ต่อเนื่องสติ และสมาธิของตัวเอง เห็นความไม่ละเอียดของการรับรู้ ความไม่ใส่ใจ ความไม่โฟกัส ความขี้เกียจ อีโก้ของเรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันล้วนเป็นอุปสรรค์ที่แท้จริงของเราทั้งนั้น

พอเรารักษาสติให้ได้ต่อเนื่อง สมาธิกับปัญญาจะตามมาเองแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยทำให้เรารับรู้ความจริงได้มากขึ้น ทำให้เรารู้สึกสงบ เป็นหนึ่งกับธรรมชาติ เป็นหนึ่งกับตนเอง และคนอื่นๆ เราจะรู้ได้เองเลยว่าในสถานการณ์ต่างๆ เราควรจะแก้ปัญหาอย่างไร หรือควรจะทำตัวอย่างไร

สุดท้ายคุณจะเห็นความเชื่อมโยงเห็นความกลมกล่อมของชีวิต คุณจะเห็นว่าบทสวดมนต์ ไม่ต่างจากบทเพลง สิ่งที่อยากทำ สิ่งที่ต้องทำ กับสิ่งที่กำลังทำ นั้นเป็นเรื่องเดียวกันได้ ความดีความชั่วไม่มีอยู่จริง สิ่งที่มีอยู่ คือตัวเราที่ดันไปตัดสินเองว่าสิ่งนั้นดี หรือชั่ว

_________________________________________________________

ทำไมต้อง “นั่ง” สมาธิ?

เพราะการฝึกสมาธิตอนที่เรานั่ง มันง่ายกว่าตอนที่เราใช้ชีวิตปกติ

_________________________________________________________

ความท้าทายของการนั่งสมาธิ

ในช่วงเวลาหนึ่งเรามีช่องทางในการรับรู้ข้อมูลที่หลายช่องทางมากจาก…

  1. ตา
  2. หู
  3. จมูก
  4. ลิ้น
  5. สัมผัสทางผิวหนัง
  6. เส้นประสาทภายในเช่นจาก กล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก และอวัยวะภายในอื่นๆ
  7. ความคิดของเรา
  8. ความรู้สึกของเรา

เราจึงมีข้อมูลที่เข้ามาทางช่องทางต่างๆอย่างมากมาย ทั้งจากปัจจัยภายนอก และภายในของเราเอง เราจึงรับข้อมูลนั้นไม่ทัน ทำให้มีข้อมูลหลายชุดที่เราพลาดในการรับรู้ไป ทำให้เราพลาดในการรับรู้ความจริงไป เปรียบเทียบง่ายๆว่าใน 1 วิ คุณคิดว่าคุณรับรู้ข้อมูลได้กี่อย่าง?

คุณอาจจะคิดว่าคุณเก่งแล้วที่คุณรับรู้ข้อมูลได้ 100 อย่างใน 1 วิ แต่แท้จริงแล้วสมุษย์เราอาจจะรับรู้ข้อมูลได้ถึง 230,000,000,0000 อย่าง ใน 1 วินาที แต่การที่คุณจะทำแบบนั้นได้ คุณจะต้องฝึกสมาธิ ให้ทั้งต่อเนื่อง และละเอียดมากขึ้น “ร่างกายเราคือเทคโนโลยีที่ล้ำที่สุด แต่เราดันไปมองหาเทคโนโลยีจากภายนอก เพียงเพราะเราใช้มันไม่เป็น” 

ซึ่งในมุมหนึ่งเราอาจจะรู้สึกว่าการรับรู้ข้อมูลเยอะๆ มันเหนื่อย มันเยอะไป แต่หากเรารับรู้ความจริงได้มากขึ้นเท่าไร เราจะเข้าถึงความสงบสุข ตื่นรู้ และมีความเป็นหนึ่งกับสิ่งรอบตัวได้มากขึ้นเท่านั้น หากพิจารณาดีๆ ความ“ทุกข์ที่เกิดขึ้น อาจจะเกิดจากการที่เราอยากให้ความจริงเป็นไปตามใจเรา ไม่ได้มาจากการที่เราได้รับรู้ความเป็นจริงมากเกินไป”

_________________________________________________________

เบื่องต้นสไตล์ในการนั่งสมาธิของผมคือ…

  1. นั่งให้สบายที่สุด
  2. หายใจเข้าให้รู้ว่าหายใจเข้า หายใจออกให้รู้ว่าหายใจออก
  3. ปล่อยไปตามหัวใจ สบายๆ ลองรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น ฟุ้งก็ปล่อยไป แต่ให้รู้ว่าฟุ้งอยู่

ซึ่งผมว่าเราแต่ละคนสามารถหาสไตล์ที่เราชอบได้ แต่ละคนอาจจะชอบไม่เหมือนกัน เอาที่เราสบายกาย และสบายใจละกัน ถึงตรงนี้อยากให้ทดลองทำจริง ทำเอง สังเกตเอง เป็นหลัก(99%) ส่วนการอ่านบทความ หรือถามคืนอื่นให้เป็นส่วนน้อย (1%)  เพราะการเรียนรู้เรื่องการนั่งสมาธิต้องปฏิบัติเอง สังเกตเอง มีข้อสงสัยถามคนอื่นได้ แต่ไม่มีใครที่จะตอบเราได้หมดหรอก

 

_________________________________________________________

ไม่น่าเชื่อว่าการที่เราแค่วางมือตอนนั่งสมาธิที่ต่างกัน ผลของความรู้สึกก็ต่างไปด้วย

  1. วางมือคว่ำจะรู้สึกสงบ และติดดิน ขนาดผมนั่งอยู่ชั้น 3 ยังรู้สึกว่าตัวติดดิน เหมาะกับการนั่งสมาธิก่อนนอน
  2. วางมือหงาย จะรู้สึกเบาๆ ลอยๆ ปล่อยวาง ว่างๆ และพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เหมาะกับการนั่งสมาธิตอนเช้า ก่อนทำงาน หรือก่อนที่จะต้องการคิดหาไอเดียใหม่ๆ
  3. แบบมือแบบกลางๆ รู้สึกสบายๆ และเป็นกลาง (ผมชอบท่านี้สุด เพราะสบายดี)
66 วัน นั่งสมาธิ #เปลี่ยนตัวเองก่อนเปลี่ยนโลก
66 วัน นั่งสมาธิ #เปลี่ยนตัวเองก่อนเปลี่ยนโลก

_________________________________________________________

สเน่ห์ของการนั่งสมาธิ

ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ เหมือนกลับไปสู่วัยเด็ก เริ่มด้วยความที่ไม่รู้อะไรเลย เริ่มจากความไม่มีสมาธิ เริ่มจากความอ่อนหัด และเปิดรับกับทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งจากภายนอก และภายใน

การนั่งสมาธิ คือมีรับรู้ความสุขรูปแบบหนึ่งที่เรียบง่ายสุดๆ ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไร ทำที่ไหนก็ได้ ไม่เดือดร้อนใคร

_________________________________________________________

สุดท้ายนี้ ใครสงสัย หรืออยากลอง ก็เริ่มเลยครับ ใครลองแล้วได้ประสบการณ์อะไร ก็มาแบ่งปันคุยกันก็ได้ หรือหากมีใครอยากอยากจะแลกเปลี่ยนมุมมอง หรือมี่ข้อสงสัยอะไรก็ Comment มาได้นะครับ

สิ่งที่ผมจะทำต่อไปคือ จะปั่นจักรยานมาทำงาน 66 วัน ใครอยากดูภาพบรรยากาศการนั่งสมาธิ หรือการปั่นจักรยานแต่ละวันของผมว่าเป็นยังไง ก็เข้าไปดูได้ที่ลิงค์ใต้ชื่อ

จากน้ำ (นที จารยะพันธุ์), CEO of Happio

#เปลี่ยนตัวเองก่อนเปลี่ยนโลก >>> https://www.instagram.com/namcud36

_________________________________________________________

ความรู้เบ็ดเตล็ดอื่นๆ

ข้อเสีย และข้อควรระวังของการนั่งสมาธิ อันนี้ลองไปอ่านกันดู

  1. จาก Inside https://www.thisisinsider.com/why-meditation-can-be-bad-2018-3#7-you-may-become-antisocial-7
  2. จาก Uplift https://upliftconnect.com/the-dark-side-of-meditation/

หนังที่พยายามเล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากเราใช้ศักภาพที่เรามี ได้ดีขึ้น

  1. Lucy https://www.youtube.com/watch?v=2tI7w1ffWrs
  2. Limitless https://www.youtube.com/watch?v=4TLppsfzQH8

บุคคลที่ผมนับถือ ที่ชอบนั่งสมาธิ

  1. Sadhgu Guru (ครูโยคะ) https://www.youtube.com/watch?v=7qnmaD6Kl1g
  2. Thich Nhat Hanh (พระ) https://www.youtube.com/watch?v=b5gMJ1BovQ0
  3. Kyle Cease (นักพูดตลก) https://www.youtube.com/watch?v=3ubXiMGkY94

Facebook Comments
สามารถติดต่อเรา เพื่อปรึกษาเกี่ยวกับ
Marketing, Design, Web และ Application ได้ที่
  Call Us   Messenger

อัปเดตอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังในประเทศพม่า ปี 2023 ปีนี้ใครมาแรงบ้าง

Uncovering Thailand’s CLMV Hospital Market through Medical Tourism

Marketing, Myanmar, Supplementary

Exploring the Best Channels and Key Factors in Purchasing Myanmar’s Supplementary Products

Beauty Market Insight in Laos

‘A Beautiful Chance of Thai Cosmetic Brands in Laos’ Discover the Laos Beauty Market’s Secrets

Myanmar Migrants: The Significant Opportunity for Pharmaceutical Industry in Thailand

How Do Myanmar Migrants Choose a Smartphone?