รีวิวนั่งสมาธิ 66 วัน #เปลี่ยนตัวเองก่อนที่จะเปลี่ยนโลก
ทำไมผมถึงอยากลองนั่งสมาธิ?
“เพราะผมสงสัยว่าการนั่งสมาธิมันดีจริงมั้ย และดียังไง?”
_________________________________________________________
_________________________________________________________
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการนั่งสมาธิวันละ 12-15 นาที เป็นเวลา 66 วัน
- ผมได้เรียนรู้ว่าผมสมาธิสั้นมากๆ และต้องฝึกอีกเยอะ
- เห็นกิเลสตัวเองชัดขึ้น และรู้ว่าต้องดับด้วยตัวเอง
- ทำให้รู้ว่าความสุข ความทุกข์เกิดขึ้นจากภายใน
- ทำให้รู้ว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญในชีวิต และเราควรทำอะไรก่อน
- เข้าใจธรรมชาติ และความเชื่อมโยงของธรรมชาติมากขึ้น
- ถ้านั่งตอนเช้าช่วงเช้าจะทำงานได้ดีขึ้น
- ถ้านั้งก่อนนอน ก็จะหลับดีขึ้น
“ทั้งนี้คุณจะต้องลองเองนะ เพราะการนั่งสมาธิเหมือนการปลูกต้นไม้ที่เราไม่รู้ว่าจะงอกเงยมาเป็นอะไร แต่ละคนเหมือนเป็นเมล็ดที่มีพันธ์ุต่างกัน” ต้องใช้เวลาที่ค่อยๆโต ค่อยๆรับแสงแดด รับน้ำ ดูดซึมแร่ธาติจากดิน บางเมล็ดพอโตแล้วให้ดอกที่สวยงาม บางต้นโตแล้วลำต้นใช้ทำเป็นบ้านได้ บางต้นทานผลได้ เวลาที่ใช้ในการงอกเงยของเมล็ดแต่ละชนิดก็ต่างกันไป
_________________________________________________________
สมาธิคืออะไร? (ที่ผมเข้าใจ)
สำหรับผม คือการที่เรามีสติที่ต่อเนื่อง (สติ=การตื่นรู้, สมาธิ = สติต่อเนื่อง)
_________________________________________________________
ทำไมต้องฝึกสมาธิ?
เพราะมนุษย์ส่วนใหญ่ยังใช้ศักยภาพของตนเองไม่เต็มที่ อย่างผมอาจจะใช้แค่ 0.01% เหลือศักยาภาพอีก 99.99% ที่ยังดึงมาใช้ได้ ถ้าคุณนั่งสมาธิคุณจะเห็นชัดมาก เห็นความไม่ต่อเนื่องสติ และสมาธิของตัวเอง เห็นความไม่ละเอียดของการรับรู้ ความไม่ใส่ใจ ความไม่โฟกัส ความขี้เกียจ อีโก้ของเรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันล้วนเป็นอุปสรรค์ที่แท้จริงของเราทั้งนั้น
พอเรารักษาสติให้ได้ต่อเนื่อง สมาธิกับปัญญาจะตามมาเองแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยทำให้เรารับรู้ความจริงได้มากขึ้น ทำให้เรารู้สึกสงบ เป็นหนึ่งกับธรรมชาติ เป็นหนึ่งกับตนเอง และคนอื่นๆ เราจะรู้ได้เองเลยว่าในสถานการณ์ต่างๆ เราควรจะแก้ปัญหาอย่างไร หรือควรจะทำตัวอย่างไร
สุดท้ายคุณจะเห็นความเชื่อมโยงเห็นความกลมกล่อมของชีวิต คุณจะเห็นว่าบทสวดมนต์ ไม่ต่างจากบทเพลง สิ่งที่อยากทำ สิ่งที่ต้องทำ กับสิ่งที่กำลังทำ นั้นเป็นเรื่องเดียวกันได้ ความดีความชั่วไม่มีอยู่จริง สิ่งที่มีอยู่ คือตัวเราที่ดันไปตัดสินเองว่าสิ่งนั้นดี หรือชั่ว
_________________________________________________________
ทำไมต้อง “นั่ง” สมาธิ?
เพราะการฝึกสมาธิตอนที่เรานั่ง มันง่ายกว่าตอนที่เราใช้ชีวิตปกติ
_________________________________________________________
ความท้าทายของการนั่งสมาธิ
ในช่วงเวลาหนึ่งเรามีช่องทางในการรับรู้ข้อมูลที่หลายช่องทางมากจาก…
- ตา
- หู
- จมูก
- ลิ้น
- สัมผัสทางผิวหนัง
- เส้นประสาทภายในเช่นจาก กล้ามเนื้อ เอ็น กระดูก และอวัยวะภายในอื่นๆ
- ความคิดของเรา
- ความรู้สึกของเรา
เราจึงมีข้อมูลที่เข้ามาทางช่องทางต่างๆอย่างมากมาย ทั้งจากปัจจัยภายนอก และภายในของเราเอง เราจึงรับข้อมูลนั้นไม่ทัน ทำให้มีข้อมูลหลายชุดที่เราพลาดในการรับรู้ไป ทำให้เราพลาดในการรับรู้ความจริงไป เปรียบเทียบง่ายๆว่าใน 1 วิ คุณคิดว่าคุณรับรู้ข้อมูลได้กี่อย่าง?
คุณอาจจะคิดว่าคุณเก่งแล้วที่คุณรับรู้ข้อมูลได้ 100 อย่างใน 1 วิ แต่แท้จริงแล้วสมุษย์เราอาจจะรับรู้ข้อมูลได้ถึง 230,000,000,0000 อย่าง ใน 1 วินาที แต่การที่คุณจะทำแบบนั้นได้ คุณจะต้องฝึกสมาธิ ให้ทั้งต่อเนื่อง และละเอียดมากขึ้น “ร่างกายเราคือเทคโนโลยีที่ล้ำที่สุด แต่เราดันไปมองหาเทคโนโลยีจากภายนอก เพียงเพราะเราใช้มันไม่เป็น”
ซึ่งในมุมหนึ่งเราอาจจะรู้สึกว่าการรับรู้ข้อมูลเยอะๆ มันเหนื่อย มันเยอะไป แต่หากเรารับรู้ความจริงได้มากขึ้นเท่าไร เราจะเข้าถึงความสงบสุข ตื่นรู้ และมีความเป็นหนึ่งกับสิ่งรอบตัวได้มากขึ้นเท่านั้น หากพิจารณาดีๆ ความ“ทุกข์ที่เกิดขึ้น อาจจะเกิดจากการที่เราอยากให้ความจริงเป็นไปตามใจเรา ไม่ได้มาจากการที่เราได้รับรู้ความเป็นจริงมากเกินไป”
_________________________________________________________
เบื่องต้นสไตล์ในการนั่งสมาธิของผมคือ…
- นั่งให้สบายที่สุด
- หายใจเข้าให้รู้ว่าหายใจเข้า หายใจออกให้รู้ว่าหายใจออก
- ปล่อยไปตามหัวใจ สบายๆ ลองรับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น ฟุ้งก็ปล่อยไป แต่ให้รู้ว่าฟุ้งอยู่
ซึ่งผมว่าเราแต่ละคนสามารถหาสไตล์ที่เราชอบได้ แต่ละคนอาจจะชอบไม่เหมือนกัน เอาที่เราสบายกาย และสบายใจละกัน ถึงตรงนี้อยากให้ทดลองทำจริง ทำเอง สังเกตเอง เป็นหลัก(99%) ส่วนการอ่านบทความ หรือถามคืนอื่นให้เป็นส่วนน้อย (1%) เพราะการเรียนรู้เรื่องการนั่งสมาธิต้องปฏิบัติเอง สังเกตเอง มีข้อสงสัยถามคนอื่นได้ แต่ไม่มีใครที่จะตอบเราได้หมดหรอก
_________________________________________________________
ไม่น่าเชื่อว่าการที่เราแค่วางมือตอนนั่งสมาธิที่ต่างกัน ผลของความรู้สึกก็ต่างไปด้วย
- วางมือคว่ำจะรู้สึกสงบ และติดดิน ขนาดผมนั่งอยู่ชั้น 3 ยังรู้สึกว่าตัวติดดิน เหมาะกับการนั่งสมาธิก่อนนอน
- วางมือหงาย จะรู้สึกเบาๆ ลอยๆ ปล่อยวาง ว่างๆ และพร้อมเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เหมาะกับการนั่งสมาธิตอนเช้า ก่อนทำงาน หรือก่อนที่จะต้องการคิดหาไอเดียใหม่ๆ
- แบบมือแบบกลางๆ รู้สึกสบายๆ และเป็นกลาง (ผมชอบท่านี้สุด เพราะสบายดี)
_________________________________________________________
สเน่ห์ของการนั่งสมาธิ
ทุกครั้งที่นั่งสมาธิ เหมือนกลับไปสู่วัยเด็ก เริ่มด้วยความที่ไม่รู้อะไรเลย เริ่มจากความไม่มีสมาธิ เริ่มจากความอ่อนหัด และเปิดรับกับทุกๆอย่างที่เกิดขึ้น ทั้งจากภายนอก และภายใน
การนั่งสมาธิ คือมีรับรู้ความสุขรูปแบบหนึ่งที่เรียบง่ายสุดๆ ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์อะไร ทำที่ไหนก็ได้ ไม่เดือดร้อนใคร
_________________________________________________________
สุดท้ายนี้ ใครสงสัย หรืออยากลอง ก็เริ่มเลยครับ ใครลองแล้วได้ประสบการณ์อะไร ก็มาแบ่งปันคุยกันก็ได้ หรือหากมีใครอยากอยากจะแลกเปลี่ยนมุมมอง หรือมี่ข้อสงสัยอะไรก็ Comment มาได้นะครับ
สิ่งที่ผมจะทำต่อไปคือ จะปั่นจักรยานมาทำงาน 66 วัน ใครอยากดูภาพบรรยากาศการนั่งสมาธิ หรือการปั่นจักรยานแต่ละวันของผมว่าเป็นยังไง ก็เข้าไปดูได้ที่ลิงค์ใต้ชื่อ
จากน้ำ (นที จารยะพันธุ์), CEO of Happio
#เปลี่ยนตัวเองก่อนเปลี่ยนโลก >>> https://www.instagram.com/namcud36
_________________________________________________________
ความรู้เบ็ดเตล็ดอื่นๆ
ข้อเสีย และข้อควรระวังของการนั่งสมาธิ อันนี้ลองไปอ่านกันดู
- จาก Inside https://www.thisisinsider.com/why-meditation-can-be-bad-2018-3#7-you-may-become-antisocial-7
- จาก Uplift https://upliftconnect.com/the-dark-side-of-meditation/
หนังที่พยายามเล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากเราใช้ศักภาพที่เรามี ได้ดีขึ้น
- Lucy https://www.youtube.com/watch?v=2tI7w1ffWrs
- Limitless https://www.youtube.com/watch?v=4TLppsfzQH8
บุคคลที่ผมนับถือ ที่ชอบนั่งสมาธิ
- Sadhgu Guru (ครูโยคะ) https://www.youtube.com/watch?v=7qnmaD6Kl1g
- Thich Nhat Hanh (พระ) https://www.youtube.com/watch?v=b5gMJ1BovQ0
- Kyle Cease (นักพูดตลก) https://www.youtube.com/watch?v=3ubXiMGkY94