พลังที่ซ่อนเร้นจาก งานอดิเรก

Posted byHappio Team Posted onApril 20, 2019 Comments0
งานอดิเรก
"เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่"

อาจเป็นคำที่เราได้ยินจนชินหู เวลาไปงานสังคม งานรวมญาติ หรือนัดเจอเพื่อนฝูง เป็นคำถามทั่วไปที่แสนธรรมดา แต่กระตุ้นความสงสัยเล็กๆ ขึ้นมาในหัวของผมว่า ทำไมคนเราถึงให้ค่ากับงานที่ทำขนาดนั้น ถึงขั้นที่ว่าเป็นคำถามสุดคลาสสิคเวลาเจอกันไปแล้ว แน่นอนว่างานทำให้มีเงินใช้จ่าย เลี้ยงชีวิต แต่จริงๆ ชีวิตเรามีเรื่องอีกหลายด้านที่ควรให้ค่ามากมาย ไม่ว่าจะเป็น สุขภาพ ความสัมพันธ์ ความสุข การเรียนรู้ หรือ งานอดิเรก ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมจะยกมาเป็นประเด็นหลักในบทความนี้ (แน่นอนว่าคุณก็ต้องรู้อยู่แล้ว เพราะมันคือ Topic หลัก)

"ทำไมต้องถาม ถึงงานอดิเรกด้วยล่ะ มันสำคัญตรงไหน?"

อย่างแรกเราอาจต้องปรับมุมมองกันก่อนนิดหน่อย เพราะคนเรามักจะถามถึง หรือพูดถึงสิ่งที่สำคัญ แต่การที่ งานอดิเรก ไม่ถูกถามถึง นั้นอาจหมายความว่าคนส่วนใหญ่มองว่ามันไม่สำคัญหรือเปล่า? ซึ่งในความเป็นจริงแล้วมันสำคัญมากจริงๆ นะ คนดังๆ ระดับโลกแทบจะทุกคน ต้องมีงานอดิเรกอย่างน้อยหนึ่งอย่าง ยกตัวอย่างเช่น วอร์เรน บัฟเฟตต์ เคยกล่าวไว้ผ่านทางนิตยสาร Forbes ว่า งานอดิเรกของเขาคือการเล่นอูคูเลเล่ ทำไมเจ้าพ่อนักลงทุนที่เวลาทุกนาทีคือการเรียนรู้ที่แสนจะมีค่า ถึงแบ่งเวลามาเล่นอูคูเลเล่ที่แสนน่ารักหล่ะ ถ้ามันไม่สำคัญ

"งานอดิเรกไม่ได้มีแค่สนุก" 

เพราะจริงๆ แล้วงานอดิเรกมีประโยชน์มากกว่าที่คุณคิด และเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คุณสามารถบรรลุเป้าหมายในชีวิตอีกด้วย แน่นอนว่าเมื่อเราได้ทำสิ่งที่ชอบในเวลาว่าง ช่วยให้สุขภาพจิตดีขึ้น และลดความเครียดลงได้ อีกทั้งยังฝึกฝนให้เป็นคนมีวินัย ได้รู้จักกลุ่มคนใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น ได้ใช้เวลาว่างได้เกิดประโยชน์และอีกมากมายร้อยแปด ซึ่งมีงานวิจัยหลายเล่ม ที่ระบุว่าการทำงานอดิเรกเป็นประจำ ทำให้คุณเป็นคนที่ดีขึ้นได้ ซึ่งดีขึ้นอย่างไรก็ขึ้นกับงานอดิเรกที่คุณทำด้วย

                         "งานอดิเรกมีพลังขนาดนั้นเลยหรือ?"

ตามทฤษฎี “Connecting the Dot” ของสตีฟ จ๊อบส์ ที่ว่าทุกสิ่งที่เราเรียนรู้และลงมือทำในวันนี้ แม้ไม่ก่อให้เกิดผลทันที แต่วันหนึ่งข้างหน้าจะเป็นประโยชน์  ซึ่งแน่นอนว่างานอดิเรกที่เราเลือกทำ สามารถช่วยเก็บสะสมทักษะที่คุณอาจจะยังมองไม่เห็นคุณค่าในวันนี้ แต่ในอนาคตอาจจะเป็นความสามารถที่คุ้มค่าที่สุดอย่างหนึ่งที่คุณเคยใช้เวลาไปกับมันก็ได้

ตัวอย่างเช่น ตอนที่ NASA ต้องการส่งเลนส์ของกล้องส่องทางไกลซึ่งมีขนาดใหญ่มากๆ ขึ้นไปบนอวกาศ ดังนั้นมันจึงต้องถูก “พับ” ให้มีขนาดเล็กเพื่อใส่ลงไปในจรวดให้ได้ก่อนที่จะไปกางออกอีกทีในอวกาศ NASA ก็ได้ Robert Lang เป็นที่ปรึกษาในการช่วยออกแบบการพับเลนส์กล้องจนสำเร็จ ที่ Robert lang สามารถทำให้สำเร็จได้เพราะ Robert lang ชื่นชอบและชำนาญการพับกระดาษมาก เมื่อนำมาผสมกับความรู้วิทยาศาสตร์ที่เขามี ทำให้วงการวิทยาศาสตร์เกิดการพัฒนาไปอีกขั้น  นี้แค่ตัวอย่างเดียวของพลังที่ซ่อนเล่นจากงานอดิเรก ซึ่งผมยังไม่พูดถึงผู้ประกอบการหลายคนก็เริ่มต้นธุรกิจมากจากแค่งานอดิเรกวันเสาร์อาทิตย์จนร่ำรวยมีสินค้าบริการชื่อดังอีกมากมาย

                         "เริ่มมองหางานอดิเรกที่ใช่ตัวคุณ"

ผมยกตัวอย่างงานอดิเรกยอดฮิตบางส่วน เป็นเพียงการจุดประกายไฟพลังที่ซ่อนเร้นอยู่ในตัวคุณ ซึ่งคนที่ต้องโหมไฟนั้นต่อก็มีแค่ตัวคุณเองเท่านั้นที่ทำได้ เอาล่ะ ลองมาดูกันว่า มีงานอดิเรกไหนที่ถูกใจคุณบ้างหรือเปล่า ?

เล่นดนตรี 

การเล่นดนตรี มีส่วนกระตุ้นให้สมองและอารมณ์ของเราให้ทำงานได้ดี และที่น่าประหลาดใจก็คือ การเล่นดนตรีช่วยเพิ่มพื้นที่ความจำของเราได้ แถมยังเป็นการฝึกสมาธิไปในตัวอีกด้วย ที่สำคัญที่สุด หนุ่มสาวที่เล่นดนตรีเป็น จะมีเสน่ห์เพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัวเลยทีเดียว

 

อ่านหนังสือ

การอ่านหนังสือทำให้เราฉลาดขึ้น และยิ่งคุณอ่านหนังสือหลายๆ ประเภทล้วนช่วยเปิดโลกความคิดของคุณให้กว้างขึ้น อีกทั้ง การอ่านยังช่วยลดความเครียดและช่วยให้คุณมีอารมณ์ที่หลากหลาย ปัจจัยเหล่านี้เองที่เป็นตัวช่วยทำให้คุณรู้สึกดีกับตัวเอง และกลายเป็นคนคิดบวกได้ในไม่ช้า

 

เรียนภาษาเพิ่มเติม

อย่าพึ่งส่ายหน้าหนี ผมเข้าใจว่าการเรียนภาษาใหม่ๆ แม้จะเป็นเรื่องยาก แต่ประโยชน์ที่ได้รับนั้นคุ้มค่าที่จะลอง เพราะการเรียนภาษาส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับหลักโครงสร้างและไวยากรณ์ของภาษา การเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ช่วยให้ระบบภาษาในสมองของเราทำงานร่วมกับสมองส่วนที่คิดแก้ปัญหา วางแผน และตัดสินใจได้ดีขึ้น ดังนั้นจึงไม่แปลกที่คนเรียนภาษาใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลามักจะเป็นคนที่มีไหวพริบดี และแน่นอนว่าคุณจะมีเพื่อนใหม่สังคัมใหม่ จากการใช้ภาษาที่เพิ่มมากขึ้นได้อย่างแน่นอน

คุณสามารถค้นหางานอดิเรกที่สนใจมากมายได้ตาม Internet ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ทำยาก และในครั้งถัดไปหากคุณได้เจอเพื่อนเก่าหรือคนรู้จัก คุณก็อย่าลืมทักทายเขาด้วยหล่ะ ว่าตอนนี้ทำงานอดิเรกอะไรอยู่ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเขาไม่มีงานอดิเรก การแนะนำนำงานอดิเรกให้คนรอบข้างก็เป็นสิ่งที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย แล้วทุกครั้งที่เจอกันบทสนทนาระหว่างคุณกับคนรู้จักก็จะเป็นเกี่ยวกับงานอดิเรกที่แสนสนุกและมีเสน่ห์กว่า “เป็นไงบ้าง ตอนนี้ทำงานอะไรอยู่” อย่างแน่นอนครับ

                          "เป็นไงบ้าง ตอนนี้มีงานอดิเรกอะไรอยู่"

 

ฝากติดตาม blog อื่นๆใน Happioteam ด้วยครับ
blog.happioteam.com

Facebook Comments
Category