ก่อนสอบ Google certificate ควรรู้อะไรก่อน

Posted byHappio Team Posted onMarch 15, 2019 Comments0

หลายๆคนคงรู้จัก Google adwords กันมาบ้างแล้ว ซึ่ง Google adwords เป็นเครื่องมือในการซื้อโฆษณา ที่จะไปขึ้นหน้า search ของ google ,google partner หรือแม้แต่ที่เห็นกันใน Youtube

 

ลักษณะของโฆษณาที่ปรากฏ

จะมีทั้งเป็นข้อความ

เป็นรูปภาพ

หรือเป็นวิดีโอ

 

ถ้าต้องการจะทำในส่วนนี้ เพียงแค่ไปสมัคร Email ของ Gmail ก็สามารถเข้าไปใช้งานได้แล้ว เพื่อโฆษณาธุรกิจของตนเองที่คนทั่วไปได้เห็น

 

แต่ถ้าใครทำงานสายโฆษณา ทั้งเป็นคนซื้อ หรือคนวางแผน โฆษณา Google ก็มี การสอบเพื่อที่จะวัดความสามารถของคุณได้ เรียกว่า Google certificate  ซึ่ง certificate ของ google นั้น มีมากถึง 6 หัวข้อแบ่งเป็นระดับ Basic 1 หัวข้อและระดับ Advanced อีก 5 หัวข้อ

และแบ่งเป็นการโฆษณาแต่ละประเภท
1.Search Ads
2.Display Ads
3.Video Ads
4.App Ads
5.Shopping Ads

แต่ก่อนอื่นที่เราจะสามารถสอบ ตัวอื่นๆได้ เราจำเป็นต้องสอบ Fundamental ให้ผ่านก่อน

และหน้าตาของ ใบ Certificate เป็นอย่างนี้

 

ขั้นตอนของการสอบ

  1. เข้าไปที่ https://landing.google.com/academyforads/#?modal_active=none เนื่องจาก Google เพิ่งเปลี่ยนจาก google partner เป็น Google ads academy
  2. Log in ด้วย account google
  3. จะมี dash board ของตนเองขึ้นมา
  4. เลื่อนมาดูตรง certificate ซึ่งหน้าตาจะมี ประมาณนี้

 

เรามาเริ่มกันที่ เนื้อหาของ  Adwords Fundamental กันเลย

Adwords Fundamental: มีเวลาสอบทั้งหมด  90 นาทีสำหรับโจทย์ 100 ข้อจะต้องตอบถูก 80% ขึ้นไปถึงจะผ่านการทดสอบ ถ้าหากไม่ผ่าน เราสามารถมาสอบได้อีกในวันพรุ่งนี้ หรือประมาณ 24 ชั่วโมงถัดไป

ในส่วนของ Academy for ads ทาง Google ได้ทำเนื้อหาให้เราเตรียมตัวก่อนสอบ โดยแบบเป็นหัวข้อย่อยๆ  ซึ่งใน Adwords Fundamental จะแบ่งเป็น 18 หัวข้อย่อย พร้อมกำกับเวลาในการอ่านให้ด้วย

โดย ทั้ง 18 หัวข้อย่อยหนั้น แบ่งเป็น 3 เรื่องหลักๆ
1. การสร้าง Google Ads
2. ทำอย่างไรให้คนเห็น Ads ของเรา
3. การบริหารค่าโฆษณา

เนื้อหาข้างในจะประกอบไปด้วย Quiz เล็กๆ และอธิบายโดยเน้นใช้เหตุการณ์สมมติเพื่อให้ผู้อ่านนึกภาพออก และสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับโฆษณาธุรกิจของตนเอง

การสร้าง Google Ads

การสร้าง Google ads สิ่งสำคัญ คือ เนื้อหาโฆษณา keywords และ ข้อมูลที่หน้า Landing page ต้องเป็นไปในลักษณะเดียวกัน เพราะ การเกี่ยวข้อกันของเนื้อหา จะทำให้ โฆษณามีประสิทธิภาพ สิ่งที่สำคัญ

1. Keywords ต้องเลือกและศึกษา keywords ให้ดี โดย Google มี tools ช่วย คือ Keyword planner เพื่อให้สามารถดูได้ว่า ตัวไหนได้รับความนิยม และมีคู่แข่อยู่ในระดับ สูง กลาง ต่ำ เพื่อประกอบการตัดสินใจในการใช้

2. การใช้ Ads Extension จะทำให้ลูกค้า สนใจ ads ของเรามากกว่าเดิม เพราะรายละเอียดที่แสดงผลบนหน้า Search โดยที่ไม่ต้องกดเข้าไป ซึ่งเมื่อตรงกับใจของลูกค้าแล้ว โอกาสที่จะคลิกมีสูงมาก

 

ทำอย่างไรให้คนเห็น Ads ของเรา

1. Keyword… ต้องเลือกให้เป็น

การเลือก Keyword น่าจะถือเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการทำ Search Ads เลยก็ว่าได้ เพราะถ้าเลือกไม่ดี นอกจากจะทำให้ขายไม่ได้แล้ว ยังจะทำให้คุณเสียเงินเยอะอีกด้วย

2. เขียนข้อความโฆษณาให้น่าสนใจ

ซึ่งหลักการเขียน ต้องสอดคล้องกับKeyword ที่เราเลือกไว้ และตรงใจกลุ่มลูกค้า ว่าเขาต้องการหาสินค้าด้วยคำไหน ข้อความแบบไหนจะกระตุ้นให้เกิดการ Click หรือทำ action อื่นๆ

3. ทำ Landing Page ให้น่าสนใจ

เมื่อคลิกเข้าไปแล้ว คนเห็นว่า Landing page ตรงตามกับที่เขาต้องการ จะมีโอกาสสูงมากที่คนจะเข้ามา ซื้อ หรือให้ข้อมูลกับ สินค้า และ บริการของคุณได้

การบริหารค่าโฆษณา

ค่าโฆษณาจะคุ้มค่า เมื่อเลือกเป้าหมายที่ถูกต้อง

Conversions เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเก็บ Leads กระตุ้นให้เกิดการซื้อ หรือโทรศัพท์มาสอบถามข้อมูล

Clicks เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้าง Traffic เว็บไซต์ ควรเลือกการจัดการ Budget แบบ Cost-Per-Click หรือจ่ายตามจำนวนที่มีผู้คลิกเข้ามา โดยสามารถตั้งค่าบริหาร Budget แบบอัตโนมัต (Maximize Clicks) หรือกำหนดการบริหารและปรับ Budget ตามความเหมาะสมด้วยตัวเอง (Mannual Clicks)

Impressions เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้าง Brand Awareness การบริหาร Budget สำหรับ Impressions มีหลายวิธี ซึ่งช่วยให้โฆษณาปรากฏตามเว็บไซต์

Views เหมาะสำหรับผู้ที่ทำ Video Ads และต้องการเพิ่มยอดวิว กระตุ้นกลุ่มเป้าหมายให้คลิกเข้าชมเว็บไซต์จาก Video Ads ควรเลือกบริหาร Budget แบบ Cost-Per-View ซึ่งสามารถกำหนดราคาสูงสุดสำหรับจ่ายในการเก็บยอด View แต่ละครั้งได้ตามต้องการ

ประโยชน์ของ Google AdWords

1) เชื่อมโยงกลุ่มลูกค้าของคุณเมื่อมันมีความเหมาะสมที่จะแสดงผล

AdWords มันจะมีระบบเป้าหมายที่เกี่ยวกับรูปแบบในสังคม ที่ช่วยให้คุณแสดงโฆษณาได้ถูกคน และถูกสถานที่ ถูกเวลา
เราต้องใช้ Keywords สถานที่ และ ข้อมูลทางสถิติ เพื่อทำการ กำหนดเป้าหมายของแคมเปญ

2) สามารถควบคุมต้นทุนได้

AdWords จะให้การควบคุมงบประมาณอย่างสมบูรณ์แบบ เราต้องเลือกจ่ายโดยกำหนดงบรายเดือย และ งบประมาณรายวัน และต่อโฆษณา โดยไม่มีขั้นต่ำ

3) พัฒนาประสิทธิภาพการโฆษณา

AdWords จะแสดงว่า มีกี่คนที่เห็นโฆษณาของคุณ เป็น เปอร์เซ็นต์ ของจำนวนคลิกที่เข้ามาที่เว็บไซต์ และมีกี่คลิกที่โทรเข้ามาหาคุณ คุณจะสามารถพบเห็น จำนวนยอดขายได้ด้วย ถ้าอยากจะ Optimized ก้สามารถทำได้ตลอดเวลา

 

Facebook Comments
Category